Friday, April 29, 2016

แจกสูตร ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า


* ส่วนผสม
1.ปลาเผาะ (ปลาแม่น้ำโขง อยู่ในวงศ์ปลาสวาย แต่เนื้อไม่มันมากค่ะ)
2.พริกแกงเผ็ด
3.มะเขือเปาะ
4.ใบยี่หร่า
5.พริกสด
6.น้ำตาลปี๊บ
7.น้ำปลา
8.น้ำปูนใส
9.เกลือ
10.น้ำมันสำหรับผัด

** วิธีทำ
- ล้างทำความสะอาดปลา แช่น้ำปูนใส 10 นาที ล้างให้สะอาด แล่เอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นเล็ก เตรียมไว้
- มะเขือล้างแล้วหั่นแช่น้ำเกลือไว้ เพื่อไม่ให้ดำ
- ตั้งกะทะผัดพริกแกงให้หอม ใส่เนื้อปลาลงผัด พอเริ่มสุก ใส่มะเขือ เติมน้ำลงไป 1 ทัพพี ผัดพอมะเขือเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่พริกสด และใบยี่หร่า ผัดพอผักสลด ตักใส่จานทานกับข้าวสวย ค่ะ

ขอบคุณที่มา: Supaporn Kumnodnae  ทาง facebook.

Tuesday, April 26, 2016

แจกสูตร ยำตะไคร้กุ้งสด


ส่วนผสมและสัดส่วน
1. ตะไคร้ซอยบางๆ 5 ต้น
2. พริกขี้หนูซอย
3. หอมแดงซอย 2 – 3 หัว
4. กุ้งสด 4 – 5 ตัว
5. กุ้งแห้งทอดกรอบ ตามชอบ
6. มะม่วงหิมพานต์อบสุกครึ่งซีก ตามชอบ
7. น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
8. น้ำมะนาวตามชอบ
9. เกลือหรือน้ำปลา ตามชอบ
10. น้ำเปล่า

วิธีปรุง
1. เตรียมเครื่องยำต่างๆ ซอยผักต่างๆ กุ้งแกะเปลือกผ่าหลัง ลวกสุกไว้ เตรียมไว้

2. เตรียมทำน้ำยำโดย ตั้งน้ำเปล้าเล็กน้อยให้เดือดใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้ละลาย จนส่วนผสมเริ่มข้นเหนียว

3. เติมเกลือ น้ำมะนาว คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ ใส่เครื่องยำต่างๆ ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งแห้งทอดกรอบ

Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com/th/recipe/ยำตะไคร้กุ้งสด/937
Cr. ภาพอาหาร http://www.rimklonghouse.com/gallery/present/big/2.png

Monday, April 18, 2016

แพทย์เตือนวัยรุ่นไทยชอบ"สักลาย"เสี่ยงติดโรค"ไวรัสตับอักเสบ-เอดส์"

จิตแพทย์ชี้คนสักลายไม่ถือเป็นผู้ผิดปกติทางจิต แต่ทำให้จิตใจหยาบกรานได้ แนะผู้พิสมัยลายสักควรไม่ควรละเลยความสะอาดและต้องระวังสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ชั้นเนื้ออาจเกิดอันตรายได้ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรสักลายให้กับเด็กโดยเด็ดขาด


นพ.ทีวิศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต บอกว่า ในทางการแพทย์แล้วผู้ที่สักลายส่วนใหญ่จะไม่ถือว่าเป็นผู้ผิดปกติทางจิตเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องความเชื่อส่วนตัว บางคนก็ชอบศิลปะแต่ไม่อยากซื้อภาพเขียนกลับนำภาพที่ชอบมาสักลงบนร่างกายของตัวเอง และที่สำคัญในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นแฟชั่นเพราะมีดาราชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศนิยมสักลาย ดังนั้นกลุ่มเยาวชนหนุ่มสาวซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ชอบทำตามแฟชั่นจึงถือเอามาเป็นแบบอย่าง

"การสักเป็นเรื่องของความต้องการให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนฝูง แต่เมื่อสักไปแล้วเกิดความรู้สึกว่าผิดพลาด ก็จะทำให้คนคนนั้นเกิดความวิตกกังวลและซึมเศร้าตามมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่และผู้ที่มีบทบาทในสังคมต้องกระตุ้นเตือนเด็กวัยรุ่นถึงพฤติกรรมการสักว่ามีผลเสียระยะยาวอย่างไรบ้าง เพราะการสักเป็นการกระทำให้เกิดความเจ็บปวดต่อร่างกาย และจิตใจหยาบกร้านมากขึ้น ถ้าหากเด็กหันไปสักกันมากขึ้น สังคมประเทศจะเป็นอย่างไร"

อย่างไรก็ตามการสักลายนั้นก็มีข้อควรระวังก็คือการนำเอาสิ่งแปลกปลอมคือผงหมึกเข้าไปในร่างกายอาจจะทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้ได้ซึ่งหากใครที่แพ้ผงหมึกก็ควรจะมีความระมัดระวังให้มาก นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อโรคติดต่อเพราะการสักนั้นจะใช้เข็มทิ่มเข้าไปในร่างกายทำให้มีเลือดออกซึ่งหากไม่ระมัดระวังก็อาจจะกลายเป็นพาหะนำโรคร้ายได้เช่น เช่น ไวรัสตับอักเสบ เอชไอวีหรือเอดส์ ตลอดจนเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา เป็นต้น บางคนอาจจะแพ้สีที่ใช้สัก ทำให้เกิดปฏิกิริยาผิวหนังปูดนูนและอักเสบได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนสักควรจะตัดสินใจให้ละเอียดรอบคอบ เพราะการลบรอยสักไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะทำให้เจ็บปวดแล้วยังใช้เวลานานเป็นปีกว่ารอยสักจะหมดไป และยังจะส่งผลกระทบต่อการสมัครงานด้วย

"การสักลายต้องทำให้เฉพาะผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้นเพราะคนกลุ่มนี้สามารถคิดได้อย่างรอบด้านแต่ไม่ควรทำกับเด็กเพราะเด็กนั้นผิวหนังยังอ่อนและยังคิดไม่รอบคอบหากสักไปแล้วในอนาคตอยากจะลบออกก็ต้องเสียเงินเสียทองไม่ใช่น้อยๆและการที่ผิวหนังที่ถูกสักลายแล้วไปลบก็ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้ 100%"นพ.ทวีศิลป์กล่าวในที่สุด

ที่มา : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000013342

Saturday, April 16, 2016

สูตร น้ำตกคอหมูย่าง


ส่วนผสมและสัดส่วน
คอหมูย่าง
1. เนื้อสันคอหมู 1 ชิ้น
2. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
7. นมข้นจืด หรือ นมสด 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตกคอหมูย่าง
1. คอหมูย่างหั่นเป็นชิ้นบางๆ
2. ต้นหอมซอย 2 ต้น
3. หอมแดงซอย 3 หัว
5. ใบสะระแหน่ 1 กำมือ
6. พริกป่น 1 - ½ ช้อนชา
7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
8. น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
10. ข้าวคั่ว ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
1. เนื้อสันคอหมู ล้างน้ำแล้วซับหรือสะเด็ดน้ำให้แห้ง นำมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ หนีกทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ช.ม.

2. หมูนำมาย่างด้วยไฟอ่อนจนสุกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ เครื่องปรุงของน้ำตกต่างๆ ผสมเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ

3. ใส่คอหมูที่หั่นไว้ ตามด้วยข้าวคั่ว ผักต่างๆ ตักใส่จาน โรยด้วยใบสะระแหน่

Cr. สูตรอาหาร
Cr. ภาพอาหาร Internet

สูตร ยำถั่วพูน้ำพริกเผากับไข่ต้ม


ส่วนผสมและสัดส่วน
1. ถั่วพลู 200 กรัม
2. หมูสับ 200 กรัม
3. น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
4. หอมแดงซอย 3 หัว
5. พริกขี้หนูสวน 5-7 เม็ด
6. น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนชา
7. น้ำปลา 1 ช้อนชา
8. มะนาว 2 ซีก
9. ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุง
1. น้ำพริกเผา
2. หอมแดงซอย
3. พริกขี้หนูสวน
4. น้ำตาลปิ๊บ
5. น้ำปลา
6. มะนาว
7. ถั่วลิสงคั่ว

วิธีปรุง
1. ถั่วพูล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล้กๆๆ

2. หมูสับละเอียดแล้วนำไปคั่วให้สุก

3. เตรียมเครื่องปรุงน้ำยา พริกเผา หอมแดงซอย(แบ่งไว้เจียวครึ่งหนึ่ง) พริกขี้หนูหั่นฝอย น้ำตาลปิ๊บ มะนาว น้ำปลาคลุกเตล้าเคื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากัน

4. ใส่หมูสับและถั่วพลูลงไปคลุกเคล้ากับน้ำยา ปรุงรสตามใจชอบ

5. จัดใส่จานโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวและถั่วลิสง

เคล็ดลับน่ารู้
ถั่วพลูสดๆนำมาทำยำแบบไม่ต้องลวกจะกรอบอร่อย

Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com

สูตร น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกเมืองเหนือลำขนาด


ส่วนผสม
1. พริกหนุ่ม 15 เม็ด
2. กระเทียม 5 หัว
3. มะนาว 2 ลูก
4. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
5. หอมแดง 5 หัว
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำพริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง มาย่างไฟอ่อนๆ พักไว้ให้เย็นแล้วปอกเปลือก พริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดงออก

2. นำพริกหนุ่ม กระเทียมและหอมแดงที่ปกเปลือกเสร็จแล้ว มาโขลกรวมกันให้ละเอียด

3. เมื่อส่วนผสมเข้าดีแล้ว เติมน้ำตาล มะนาวและน้ำปลาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมถ้าอยากเพิ่มรสชาติไหนเพิ่มลงไปได้เลย

2 สูตร ใส่ปลาร้าและถั่วเน่า

สูตร ใส่ปลาร้า เครื่องปรุง – พริกหนุ่ม 7 เม็ด – หัวหอม 5 หัว – กระเทียม 2 หัว – มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก – เกลือป่น 1 ช้อนชา – ปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ – ต้นหอม – ผักชีหั่นหยาบ

สูตร ใส่ถั่วเน่า เครื่องปรุง -พริกหนุ่ม 7 เม็ด -หัวหอม 5 หัว -กระเทียม 5 หัว -ถั่วเน่าแผ่น 1 แผ่น -เกลือป่น 1 ช้อนชา -ต้นหอม ผักชี หั่นหยาบ

Cr. สูตรอาหาร น้ําพริกหนุ่ม.blogspot.com
Cr. ภาพอาหาร Internet

แจกฟรี ! สูตรหมักหมูนุ่มจากร้านหมูกระทะดัง เปิดร้านขายให้รวยเลย


วัสดุที่ต้องเตรียมในการหมักหมูให้นุ่ม

1. เนื้อหมูหั่น ตามต้องการ
2. ผงฟู 1 ซอง
3. ไข่ไก่ (เนื้อเยอะใช้ไข่ประมาณ 5 ฟอง เนื้อน้อยใช้แค่ 3 ฟองก็ได้)
4. งาขาว (ตามต้องการกะให้พอดี)
5. น้ำมันหอย
6. น้ำปลา
7. ซอสภูเขาทอง
8. ผงชูรส (แล้วแต่ความชอบค่ะ)

วิธีทำ
1. เตรียมเนื้อตามที่เราต้องการ จะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ ก็ได้ตามใจชอบ ควรแล่เนื้อให้บางๆเป็นชิ้นๆ เพื่อง่ายต่อการปิ้งหรือย่างแล้วที่สำคัญเครื่องปรุงจะซึมเข้าเนื้อได้ง่าย

2. ใส่ผงฟูลงไป (ถ้าเนื้อเยอะก็ใส่ 1 ซองถ้าเนื้อน้อยก็ใส่ครึ่งซอง ของผมเนื้อ 2 กิโลเลยใส่ 1 ซอง)

3. ตอกไข่ใส่ลงไป 5 ฟอง (เนื้อเยอะ 5 ฟอง เนื้อน้อย 3 ฟอง หรือแล้วแต่จะใส่ค่ะ ตามสะดวก) ไข่ที่ใส่ลงไปเวลาเราเอาเนื้อไปย่างหรือเอาลงไปลวกในกะทะ น้ำซุปจะเต็มไปด้วยไข่ ช่วยทำให้น้ำซุปน่าทานมากยิ่งขึ้น ตักน้ำซุปใส่ถ้วยยกซดเลยก็ได้ อร่อยจริงๆนะ แม่ครัวไร้ใบรับรองรับประกัน

4. ใส่งาขาวลงไป (งาที่ใส่กะให้พอดีนะค่ะ กะปริมาณกันเอาเอง ตามสายตาใครสายตามัน)

5. ใส่ซอสหอยนางรมและตามด้วยซอสปรุงรสลงไป (กะให้พอดีนะค่ะ ชอบมากก็ใส่มาก ชอบน้อยก็ใส่น้อย ใครแพ้ซอสหอยนางรมก็ไม่ต้องใส่)

6. สุดท้ายท้ายสุดใส่น้ำปลาลงไป หากอยากจะให้นุ่มลิ้นก็ควรหมักแล้วใส่ตู้เย็นทิ้งไว้สัก 3-4 ชั่วโมงรับรองว่านุ่มน่ากิน

Cr. สูตรอาหาร http://pantip.com/topic/30110838
Cr. ภาพอาหาร http://ketkaew.diaryclub.com/

วิธีทำพล่ากุ้ง


พล่ากุ้ง
- กุ้งสด ไม่รู้กี่ตัวไม่ได้นับคะ (ประมาณ 10 ตัว)
- ตะไคร้ 1 ต้น หั่นฝอย
- ต้นหอม 5 ต้น หั่นฝอย
- ใบมะกรูดเกือบ 10 ใบ หั่นฝอย
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว ครึ่งลูก
- หัวหอม 2 หัว
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกชี้ฟ้า 6 เม็ด
- น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำจ้า
1. แกะเปลือก ผ่าหลังกุ้ง ให้สะอาด นำไปลวกในน้ำเดือด 3 นาทีพอคะ

2. หั่นเครื่องสมุนไพร ใบมะกรูด หัวหอม ต้นหอม พริกสด ตะไคร้ หั่นแบบฝอย

ต่อไปก็ทำน้ำปรุงนะคะ
1. น้ำเปล่าใส่แก้ว 4 ช้อนโต๊ะ กับน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา เข้าตู้ไมโครเวบให้น้ำตาลละลาย

2. เทน้ำเชื่อมใส่ชามใหญ่ๆ ละลายน้ำพริกเผา เติมน้ำมะนาว น้ำปลา พริกสด ชิมตามชอบคะ น้ำปรุงได้ที่เทผักทั้งหมดคนให้เข้ากัน ตามด้วยกุ้งที่ลวกน้ำเดือดไว้แล้ว เทกุ้งลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ไม่ต้องคนแรงนะคะ จัดใส่จานพร้อมเสริฟค่ะ

Cr. สูตรอาหารและภาพ http://www.baanmaha.com/

วิธีทำ ลาบเป็ด

 
ส่วนประกอบเครื่องปรุงและวัตถุดิบ สูตรลาบเป็ด
1. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
2. เป็ดอ่อน 1/2 ตัว
3. หอมแดงซอยบางๆ 1/4 ถ้วยตวง
4. ตะไคร้หั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
5. ผักชีฝรั่งหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
6. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
7. ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 5 แว่น
8. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
9. น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ
10. ผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
12. ใบมะกรูดหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
13. ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
14. ต้นหอมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
15. พริกขี้หนูคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
16. ผักสด ถั่วฝักยาว ใบโหระพา ผักชี

วิธีทำและขั้นตอนในการทำลาบเป็ด
1. ลำดับแรกให้เตรียมหม้อต้มน้ำต้มน้ำให้เดือดใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก จากนั้นนำเป็ดลงไปต้มแค่พอสุกต่อไปให้ตักขึ้นมาจากนั้นทำการลอกหนังเป็ดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (สังเกตหนังเป็ดให้ต้มพอสุก พยายามอย่าให้เละเพราะจะทำให้ลาบแฉะ) เลาะเนื้อเป็ดหั่นเป็นชิ้นๆ

2. ขั้นตอนที่สองต่อจากขั้นตอนแรกให้สับเนื้อเป็ดที่หั่นเป็นชิ้นๆเรียบ ร้อยแล้วให้ละเอียดผสมข่าพร้อมด้วยหนังเป็ดให้เข้ากันจากนั้นให้นำขึ้นตั้ง ไฟอีกครั้ง พอเป็ดสุกทั่วดีแล้วยกลง

3. ขั้นตอนที่สามให้ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบให้กลมกล่อมนำเป็ดที่รวนแล้ว มาใส่น้ำปรุงรส พริกป่น ข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยใส่ผักชีฝรั่งหอมแดง ใบมะกรูด ใบสะระแหน่ ผักชี ต้นหอม เคล้าให้เข้ากันจัดใส่จานเสิร์ฟรับประทานพร้อมด้วยผักสด

Cr. สูตรอาหาร http://thailandrecipess.blogspot.com/2014/03/blog-post_795.html
Cr. ภาพอาหาร http://blog.dnevnik.hr/sweetspider/2008/12/1625733474/kolaciskolakomentari.html

Sunday, April 10, 2016

แทบช็อคกลางไร่ !! ครูสาวพบสิ่งหายากระดับโลก..?? โผล่เหม็นคลุ้งทั่วไร่มัน เมืองโคราช

วันที่ 1 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วัชราลักษณ์ ปราณีตพลารักษ์ อายุ 40 ปี ครูสอนหนังสือ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เผยว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยคละคลุ้ง ก่อนพบต้นตอกลิ่น คือ เห็ดปลาหมึก กว่า 10 ต้น ผุดขึ้นบนพื้นดินกระจายทั่วบริเวณไร่มันสำปะหลังข้างบ้านตัวเอง และโล่งใจที่ไม่ใช่ศพมนุษย์ ปลูกในพื้นที่ หมู่ 7 ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด


น.ส.วัชราลักษณ์ กล่าวว่า ตนเองทราบจากทางสื่อต่างๆ นำเสนอเกี่ยวกับเห็ดปลากหมึกนี้มาบ้างแล้ว เป็นเห็ดหายากติดอันดับ 2 ของโลก ลักษณะของดอกเห็ดที่มี 6 หรือ 7 แขน เชื่อมต่อกันที่ส่วนปลายที่คล้ายหนวดหมึก กลิ่นเหม็นของดอกเห็ดเกิดจากเมือกเขียว-ดำ ซึ่งกลิ่นเหม็นนี้ช่วยดึงดูดมด หรือแมลงวันให้บินเข้ามาไต่ตอมอยู่เรื่อยๆ และส่วนมากจะพบในแถบยุโรปแต่ปัจจุบันคิดว่าน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในเมืองไทยอยู่ทั่วไป แต่ต้องยอมรับว่ากลิ่นของเห็ดปลาหมึกมีความเหม็นมากจริงๆ และเมื่อลองใช้มีดผ่าดอกเห็ดปลาหมึกที่มีลักษณะทรงกลม ซึ่งคาดว่าจะยังโตไม่เต็มที่ก็พบส่งกลิ่นออกมาด้วยเช่นกัน ภายในเนื้อมีสีขาวและตรงกลางมีเนื้อยุ่ยสีดำและยังพบน้ำเมือกสีเขียวด้วย เมื่อลองสัมผัสกับน้ำเมือกก็ปรากฎว่ามีกลิ่นเหม็นมาก เหม็นคล้ายกับซากสัตว์เน่าตาย แต่ก็พบว่าเมื่อเห็ดปลาหมึกมีสภาพเหี่ยวแห้งลงกลิ่นก็จะจางหายไปด้วย


ที่มา :http://social.tnews.co.th/content/167243/

รู้ทันได้ระวัง!! นี่คือโรคที่คนไทยป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี รักสนุก ทุกข์สนั่น น่ากลัวมาก


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการสรุปรายงานสถานการณ์โรคที่เฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ในประเด็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่า เมื่อพิจารณาในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้

สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำนวน 33,662 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 52.09 ต่อประชากรแสนคน แบ่งเป็น หนองใน จำนวน 6,731 ราย โรคหูดอวัยวะเพศและทวารหนัก 2,491 ราย โรคซิฟิลิส 2,369 ราย หนองในเทียม 1,981 ราย เริม 1,941 ราย แผลริมอ่อน 605 ราย และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ 17,192 ราย




ขณะที่โรคเอดส์ มีรายงานผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการป่วย 25 จังหวัด รวม 1,671 ราย ปัจจัยเสี่ยงมาจากเพศสัมพันธ์มากที่สุดร้อยละ 84.20 เมื่อจำแนกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สำคัญ พบว่า มีผู้ป่วย 12,038 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 18.63 คนต่อประชากรแสนคน เมื่อจำแนกตามอายุพบว่า กลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงสุด คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี คิดเป็นอัตราป่วย 52.21 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือกลุ่มอายุ 25-34 ปี และ 35 ปีขึ้นไป อัตราส่วนการป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณเท่าตัว


ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะประกอบอาชีพ รับจ้าง รองลงมา เป็นนักเรียน และกลุ่มเกษตรกรรม โดยส่วนมากของรายงานเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน




นพ.โอภาส กล่าวว่า จากรายงานพบว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยมากที่สุด คือ จ.ภูเก็ต อัตราป่วย 73.93 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ จ.ตราด อัตราป่วย 53.71 ต่อประชากรแสนคน ระยอง อัตราป่วย 49.45 ต่อประชากรแสนคน จ.พิษณุโลก อัตราป่วย 43.37 ต่อประชากรแสนคน จ.เชียงใหม่ อัตราป่วย 41.78 ต่อประชากรแสนคน จ.จันทบุรี อัตราป่วย 41.49 ต่อประชากรแสนคน จ.เชียงราย อัตราป่วย 38.58 ต่อประชากรแสนคน จ.ศรีษะเกษ อัตราป่วย 38.49 ต่อประชากรแสนคน จ.นครสวรรค์ อัตราการป่วย 34.66 ต่อประชากรแสนคน และ จ.เพชรบุรี อัตราป่วย 34.26 ต่อประชากรแสนคน


ทั้งนี้ อัตราการป่วย ที่สูงในกลุ่มอายุ 15-24 ปี พบว่าในแต่ละปีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ จากค่านิยมและแนวคิดทางสังคมที่เปลี่ยนไป และพบพฤติกรรมการป้องกันโรคติดต่อด้วยการใช้ถุงยางอนามัยต่ำ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความรู้ในการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม




หูดหงอนไก่ที่ลิ้น นานๆจะเจอซักราย รักษาได้..อาจจะต้องใช้วิธีผ่าตัดออก ระวังนะคะสำหรับชายรักชายที่ชอบออรัลเซ็กซ์ และชายที่ชอบทาสี (ใช้ปากกับอวัยวะเพศหญิง)

หูดข้าวสุกไม่ได้ขึ้นบริเวณอวัยวะ หรือทวารหนักอย่างเดียว สามารถขึ้นที่หน้าได้ด้วย ลักษณะคล้ายสิว แต่เจ็บไม่คัน ดูจากรูปได้ค่ะ

เริมในช่องปาก และบนลิ้น เกิดจากการติดเชื้อไวรัส การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิต้านทานอ่อนแอ จึงเกิดอาการเป็นแผลเริมในช่องปากได้



หูดหงอนไก่ที่ทวารหนัก ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ อายุน้อยลงๆ ทุกวัน ยังไงรักสนุก หรือมีเพศสัมพันธ์ ก็ระมัดระวังกันหน่อยนะคะทุกคน




ประเภท : ทันเหตุการณ์
ที่มา : ohozaa.com

Saturday, April 9, 2016

กุ้งอบวุ้นเส้น สูตรอร่อยเหมือนทานที่ร้านอาหาร



ส่วนผสม
1. วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม 150 กรัม (1 1/2 ขีด)
2. มันหมูแข็ง 100 กรัม (1 ขีด) ถ้าหาไม่ได้ใช้น้ำมันพืชสัก 3 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้หมูสามชั้นหั่นแบบเดียวกันแทนก็ได้ค่ะ ไว้สำหรับปูรองก้นหม้อเพื่อไม่ให้วุ้นเส้นติดก้นหม้อค่ะ
3. กุ้งสด 200 กรัม (2 ขีด)
4. ขิงแก่หั่นแว่นบาง ๆ 5-6 แว่น
5. รากผักชี 4 ราก
6. กระเทียมกลีบใหญ่ 8 กลีบ
7. พริกไทยเม็ด 12-15 เม็ด
8. ขึ้นฉ่าย 2-3 ต้น
9. น้ำซุป 1 ถ้วยตวง (ใช้น้ำหนึ่งถ้วยนิดๆ ผสมกับรสดี 1 ช้อนชา)
10. ช่วงเจี่ย (พริกหอม) 1/2 ช้อนชา
11. ซอสแมกกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
12. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
13. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
14. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
15. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
16. หม้ออบวุ้นเส้น

วิธีทำ
1. เทน้ำซุป ช่วงเจี่ย ซอสแมกกี้ ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ลงในชามคนให้เข้ากัน แล้วนำกุ้งลงไปแช่ 15 นาที แล้วตักขึ้นพักไว้ นำวุ้นเส้นลงไปคลุกเคล้าในส่วนผสมข้างต้น จากนั้นพักวุ้นเส้นไว้

2. นำมันหมูมาเรียงกันในหม้อ หรือใช้น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่รากผักชีทุบ ขิงหั่นแว่น กระเทียมทุบ พริกไทยเม็ดลงไปให้ทั่ว ๆ แบ่งขึ้นฉ่ายส่วนนึงมาใส่ในหม้อนิดนึงคะ เหลือไว้นิดหน่อยไว้โรยตอนหลัง ถ้าใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่คะ บางคนอาจเปลี่ยนเป็นต้นหอม หรือหัวหอมใหญ่ตามชอบคะ

3. จากนั้นเอาวุ้นเส้นและน้ำซุป + เครื่องปรุง ในชามที่เราผสมไว้เทลงไปค่ะ นำกุ้งวางเรียงไว้ด้านบน ปิดฝา เอาไปตั้งเตาแก๊ส ไฟอ่อน แต่ไม่อ่อนสุด ประมาณ 8 นาที ครบเวลาก็ปิดเตา แล้วเอาใบขึ้นฉ่ายที่เหลือโรยหน้า ปิดฝาหม้อไว้พักนึงคะ เปิดมาอีกทีก็จะได้ "กุ้งอบวุ้นเส้น" พร้อมเสริฟ

Cr. สูตรอาหาร http://www.aroiho.com
Cr. ภาพอาหาร Internet

อาหารอีสาน สูตรลาบปลาดุก



ส่วนผสม อาหารภาคอีสาน ลาบปลาดุก
ปลาดุกอุยหนักประมาณ 300 กรัม 1 ตัว
ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ข่าโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ช้อนชา (15 กรัม)
ต้นหอมซอย 2 ช้อนชา (15 กรัม)
หอมแดงฝอย 2 ต้น (10 กรัม)
ใบสะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
น้ำมะนาว ถ้วย (50 กรัม)
น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
ผักสด กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ใบโหระพา

วิธีทำ
1.ล้างปลาดุกให้สะอาด ขูดเมือกบนผิวออก นำไปย่างไฟพอสุก แกะเอาแต่เนื้อ สับหยาบๆ
2.เคล้าเนื้อปลาดุกกับข้าวคั่ว พริกป่น ข่าหั่นฝอย หอมแดงซอย ใบมะกรูดหั่นฝอย
3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว คลุกเคล้ากันให้ทั่ว โรยใบสะระแหน่ ต้นหอมซอย ชิมรสตามชอบ รับประทานกับกะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ใบโหระพา

Friday, April 8, 2016

สูตร อิบิเทมปุระ (เทมปุระกุ้ง)



ส่วนผสม อาหารญี่ปุ่น อิบิเทมปุระ (เทมปุระกุ้ง)

กุ้ง 8 ตัว
แป้งสาลี 250 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำเย็น 500 มล.
ซีอิ้ว 20 กรัม
เหล้ามิริน 20 มล.
น้ำเปล่า 100 มล.
ขิง 10 กรัม
น้ำมัน 50 มล.

วิธีทำ อาหารญี่ปุ่น อิบิเทมปุระ (เทมปุระกุ้ง)

แกะเปลือกกุ้ง แล้วบี้ให้แบน
นำไปคลุกเข้ากับแป้งสาลี
ผสมแป้งสาลี ไข่แดง และน้ำเปล่า แล้วตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำกุ้งไปชุบกับแป้งที่ตีเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นำไปทอดในน้ำมันร้อนปานกลางประมาณ 3-5 นาทีเสิร์ฟคู่กับซอสเทมปุระ(โดยนำน้ำเดือด ผสมกับมิริน ขิงและซีอิ้วจนเข้ากันดี)



ที่มา https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/ByMCRRcVXxY

สูตร หมูผัดกิมจิ



ส่วนผสม หมูผัดกิมจิ

หมูสามชั้นสไลด์ 200 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม 2 ต้น
กิมจิ 100 กรัม
เกลือ เล็กน้อย
พริกไทย เล็กน้อย
งาขาวคั่ว นิดหน่อย
น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ หมูผัดกิมจิ

ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วใส่หมูผัดจนสุก
ใส่กิมจิผัดต่อให้เข้ากัน แล้วใส่ต้นหอม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตามด้วยน้ำมันงาผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยด้วยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟ



ที่มา https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/PaUVjmemSoo

ว้าว..!! 5 วิธีสังเกตุ ผู้ชายจู๋ใหญ่ 18+ แบ่งปันในขณะนี้!!!^ ^


ว้าว..!! 5 วิธีสังเกตุ ผู้ชายจู๋ใหญ่


5 วิธีสังเกตุ ผู้ชายจู๋ใหญ่ หลายคนคงอยากรู้ว่าหนุ่มที่เรามองตาอยู่นั้นจู๋ใหญ่หรือไม่ วันนี้มีวิธีสังเกตมาฝากเผื่อว่าจะได้เลือกขนาดที่ถูกใจ แต่อย่าลืมขนาดก็ไม่สำคัญเสมอไปเรื่องบนเตียงมันอยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่ายนะครับ


1. นิ้วโป้ง (นิ้วหัวแม่มือ


อันชายใด.. นิ้วโป้งหนาใหญ่.. ปลายบาน พลานให้คิด

เห็ดของลับ… ใหญ่สุดฤทธิ์ ยอดชายหนา

สาวใด… ได้ลิ้มลอง พร่ำพรรณา

นี่ล่ะหนา..พิษงูใหญ่ ใคร่ท่องจำ


2. ตาตุ่ม


ตาตุ่มนั้น… สำคัญ อัน..ฉไน

รู้หรือไม่… บ่งบอกได้ กล่อง.. ดวงใจหนา

ดูของที่ลับ.. ให้ดู ที่นี่นา

ชายใดหนา.. ตาตุ่มใหญ่ มักไข่โต

3. จมูก




จมูกสันโด่งดูตรง… ปีกแลหนา โบราณว่า…ชายคนนั้น… สำคัญฉไน

มีคนรัก.. คนจะรัก… ปักดวงใจ เพราะเพียงได้…ครอบครอง…ของลับโต

ว่ากันว่า…ดูของลับ จงเพ่งมองที่จมูก..

สันจมูกจะโด่ง…ปีกจะหนา สัดส่วนจะใหญ่..จนสะดุดตา

จำไว้หนา หาคนรักให้มอง.. จมูกเอย

4. กำปั้น



กำปั้นใหญ่… แข่งแกร่ง แรงไพศาล

บอกประมาณ… ให้เห็น ของลับหนา

ชายใด… กำปั้นใหญ่ ขนาดมหึมา

ถ้าเซาะหา… ของใหญ่ให้… ใคร่มอง กำปั้นเอย

5. โหนกคิ้ว





ชายฉกรรจ์… มักจะมี โหนกคิ้วที่…โหนกนูน

ช่วยเพิ่มพูน..พลัง ให้ของลับ…มหาศาล

หญิงใด..มองหาชาย ของลับ…มโหฬาร

ให้มองมุ่งมั่น ไปที่…โหนกคิ้วเอย

ที่มา: www.zaapmak.com

Monday, April 4, 2016

สูตร กล้วยปิ้งน้ำกะทิ


ส่วนผสมและสัดส่วน
1. กล้วยน้ำว้า 10 ลูก
2. หัวกะทิ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลปึก ½ ถ้วย
4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
5. มะพร้าวขูด 1 ลูก (คั้นกะทิ)
6. เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีปรุง
1. ตั้งกระทะใส่น้ำตาลปึกกับหัวกะทิ คนให้ละลายเข้ากัน

2. เติมน้ำตาลทราย เกลือ เคี่ยวให้ละลาย ปิดไฟพักไว้

3. ปอกเปลือกกล้วยทิ้ง แล้วนำกล้วยมาเสียบไม้ปิ้งบนเตาถ่าน (ถ้าไม้มีใช้เตาไฟฟ้าก็ได้ค่ะ แต่จะไม่หอมเท่าเตาถ่านนะ) คอยพลิกกล้วยเรื่อยๆให้เหลืองทั่วทั้งลูก

4. นำกล้วยมาทับให้แบน หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วราดด้วยน้ำกะทิที่ทำไว้ ทานด้วยกันอร่อยโฮกๆ

เคล็ดลับน่ารู้
กล้วยน้ำว้ายาระบาย

ผลของกล้วยน้ำว้าขณะที่ยังดิบอยู่เนื้อกล้วยจะแข็งมีรสฝาด เนื้อมีสีขาว ยังไม่มีกลิ่นหอมของกล้วย เปลือกของผลดิบแข็ง มีสีเขียวเข้ม ปอกยาก แต่เมื่อตัดจากลำต้นแล้วประมาณ 10 วัน เปลือกจะมีสีเหลืองตลอดลูก ตกกระเป็นจุด ๆ มีกลิ่นหอม มีรสหวาน เปลือกปอกได้ง่าย ผลกล้วยสุกเรานำมาทำอาหารได้กลายอย่าง เช่น กล้วยเชื่อม กล้วยตาก กล้วยบวชชี กล้วยแขก กล้วยปิ้ง รับประทานเป็นยาระบายอ่อน ๆ เป็นอาหารเสริมสำหรับทารก
คุณค่าทางอาหารของกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นพันธุ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนทั้งลำต้น ใบ ดอก ผล โดยเฉพาะผลกล้วยน้ำว้าที่สุกแล้ว มีสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายหลายชนิด เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดตร แคลเซียม วิตามิน ฯลฯ

Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com/th/recipe/กล้วยปิ้งน้ำกะทิ/3000
Cr. ภาพอาหาร http://www.bloggang.com

Friday, April 1, 2016

โอ้โฮ้!!!!! ทำไปได้...30 ไอเดียรอยสักสามมิติเจ๋งๆ เหมือนของจริงจนไม่อยากเชื่อสายตา!! ^ ^




















รวมภาพรอยสักสุดครีเอท ที่คุณต้องร้องออกมาว่า....คิดได้ยังไง !!

วันนี้เราได้รวบรวมรอยสักที่คุณเองก็คาดไม่ถึงว่า พวกเค้าเหล่านี้จะกล้าสัก ช่างเป็นไอเดียที่สุดครีเอทจริงๆ....ถ้าใครสักลายแบบนี้ต้องระวังตัวดีๆนะ ระวังจะมีคนเอานิ้วมาจิ้มเอา !!








แจกสูตร ขนมใส่ไส้

วัตถุดิบ สำหรับ 30 ห่อ น้ำตาลปี๊ป 200 กรัม เกลือป่น 1/2 ช้อนชา สำหรับไส้ , เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับกะทิ มะพร้าวทึนทึกขูด แป้งข้าวเหน...